การจัดฟัน (Orthodontics) เป็นสาขาหนึ่งในทางทันตกรรม ที่ให้การวินิจฉัย ป้องกัน และรักษาความผิดปกติของการ เรียงฟันและการสบฟันรวมทั้งปัญหาความผิดปกติของขนาดและความสัมพันธ์ของขากรรไกรต่อใบหน้าการจัดฟัน เป็น การรักษาเพื่อให้มีการสบฟันที่ดีขึ้น เพื่อการบดเคี้ยวอาหารที่มีประสิทธิภาพรวมทั้งลดอัตราเสี่ยงในการเกิดฟันผุหรือ โรค เหงือกอันเนื่องมาจากความลำบากในการทำความสะอาดฟันและเหงือก ในบริเวณที่ฟันเรียงตัวผิดปกติ หลีกเลี่ยงการเกิด การสึกของฟันที่ผิดปกติจาการเรียงฟันหรือสบฟันที่ไม่เหมาะสม นอกจากนี้ยังอาจช่วยส่งเสริมบุคลิกภาพจากการที่มีฟัน เรียงกันสวยงาม
สาเหตุทางกรรมพันธุ์ เกิดจาการถ่ายทอดลักษณะของฟัน, จำนวนซี่ฟัน, และขนาดและตำแหน่งของขากรรไกรจากพ่อแม่ มายังลูก ได้แก่ ฟันหาย ฟันเกิน ความไม่สัมพันธ์กันระหว่างขนาดฟันและขนาดของขากรรไกร เช่น ฟันที่มีขนาดใหญ่ใน ขากรรไกรที่เล็ก จะทำให้เกิดความซ้อนเกของฟัน หรือในทางกลับกัน ฟันที่เล็กแต่มีขากรรไกรใหญ่จะเกิดช่อง ห่าง ระหว่างฟันได้ นอกจากนี้ความผิดปกติของการสบฟันที่เกิดจาก ความผิดปกติแต่กำเนิด เช่นปากแหว่งเพดานโหว่ มีการถ่ายทอดทางพันธุกรรมเช่นกัน
สาเหตุทางสิ่งแวดล้อม เช่น การมีนิสัยผิดปกติ เช่น ดูดนิ้ว, หายใจทางปาก, การดุนฟันจากลิ้น, การสูญเสียฟันและ ไม่ได้ทดแทนทำให้ฟันข้างเคียงล้ม หรือ การเกิดอุบัติเหตุบริเวณใบหน้า ก็สามารถทำให้เกิดความผิดปกติของการสบ ฟันได้
ลักษณะที่พบได้บ่อย ๆ ได้แก่ ฟันซ้อนเก, ฟันยื่น, ฟันห่าง, ฟันสบลึก, ฟันสบเปิด, ฟันล่างคร่อมฟันบน
การจัดฟันนั้นสามารถทำได้ทั้งในเด็ก และผู้ใหญ่ ผู้ป่วยควรได้รับการตรวจการสบฟันจากทันตแพทย์ทั่วไป หรือทันต แพทย์ประจำและได้รับการส่งต่อมายังทันตแพทย์ผู้ให้การรักษาทางด้านทันตกรรมจัดฟันทันทีที่สังเกตุพบปัญหาการสบฟัน การจัดฟันส่วนใหญ่มักเริ่มทำในเด็กมีฟันแท้ขึ้นเกือบครบ คืออายุประมาณ 11-13 ปี อย่างไรก็ตามการแก้ไขปัญหาการสบฟันบางอย่างสามารถทำในช่วงฟันผสม เพื่อลดความรุนแรงของปัญหาหรือเพื่อป้องกันการไม่ให้เกิดการพัฒนาไปเป็นความผิดปกติที่มีความรุนแรงขึ้น เช่นการจัดฟันหน้าบางส่วนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุกระทบกระแทกต่อฟันในกรณีที่ฟันหน้าบนยื่นมาก ๆ การจัดฟันในชุดฟันผสมมักเป็นการรักษาระยะสั้น และเป็นการจัดฟันบางส่วนเท่านั้น เมื่อผู้ป่วยเข้าสู่ระยะฟันแท้ ส่วนใหญ่จะจำเป็นต้องได้รับการจัดฟันทั้งปากต่อไป

- เครื่องมือแบบถอดได้ มักมีลักษณะเป็นพลาสติก และมีลวดเพื่อยึดกับฟันหรือใช้เคลื่อนฟัน โดยมากจะใช้อยู่ในวงจำกัดเพื่อเคลื่อนฟันเล็กน้อยบางซี่ หรือใช้ช่วยในการส่งเสริมการเจริญเติบโตของขากรรไกรตามทิศทางที่ต้องการ เครื่องมือถอดได้บางแบบใช้เพื่อคงตำแหน่งของฟันหลังจัดฟันจนกว่าเหงือกและฟันจะปรับตัวเข้ากับตำแหน่งใหม่ เรียกว่าเครื่องมือคงสภาพฟัน หรือ รีเทนเนอร์ (Retainer)
- เครื่องมือติดแน่น ประกอบด้วยแบร็กเก็ต (Bracket) สำหรับฟันหน้า หรือท่อ (Tube) สำหรับฟันหลังติดบนผิวฟัน
ในฟันหลังอาจใช้เป็นแบรนด์ (Band) ซึ่งมีท่อบัดกรีอยู่สวมบนฟันเพื่อมิให้ท่อหลุดจากผิวฟันได้ง่าย ฟันที่อยู่ชิด กันจะต้อง ใช้ยางแยกฟันดันให้หลวมขึ้นเล็กน้อยก่อนใส่แบนด์
อาการเจ็บฟันหลังจากปรับเครื่องมือจัดฟันใหม่ ๆ เกิดจากการที่หลอดเลือดถูกกด จากแรงที่ดันฟันซึ่งเป็นการเริ่มต้นของขบวนการทางชีวภาพที่ทำให้ฟันเคลื่อนไปได้ อาการเจ็บนี้จะบรรเทาลงใน 3-5 วัน ผู้ป่วยสามารถทานยาแก้ปวด เช่น paracetamol เพื่อบรรเทาอาการปวดได้ นอกจากนี้ การเคี้ยวอาหาร (ที่ไม่แข็งเหนียว ที่อาจทำให้เครื่องมือหลุด) ในช่วง 8 ชั่วโมงแรกหลังจากการปรับเครื่องมือ จะเป็นขยับฟันบริเวณที่แรงกด และเป็นการกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตรอบรากฟัน จะช่วยบรรเทาอาการปวดได้